ตามความเป็นมาของวัดในอดีต ผู้เฒ่าเล่าให้ฟังว่า เดิมทีวัดกะทู้ตั้งอยู่หลังตลาดวัดกะทู้ มีหลักฐานปรากฏชัดเจนคือ ต้นโพธิ์
เนื่องจากสถานที่ตั้งวัดเดิม เป็นที่ลุ่มมีน้ำท่วมและประกอบกับมีแร่ดีบุกเป็นจำนวนมากพอสมควร ซึ่งในสมัยนั้น
หลวงอำนาจนรารักษ์ เป็นกำนัน ท่านจึงได้ย้ายวัดจากที่เดิม ไปตั้งอยู่ที่ปัจจุบัน เนื้อที่โดยประมาณ ๓๐ ไร่ ๓ งาน ๘๖ ตารางวา
ตั้งอยู่ที่ ม.๔ ตำบลกะทู้ อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต หน้าวัดติด ถนน วิชิตสงคราม ทิศตะวันตกจรดสถานีตำรวจและที่ว่าการอำเภอเก่า
ทิศเหนือจรดที่ประทานบัตรของบริษัท บ่านหงวนตินไมนิ่ง จำกัด ทิศตะวันออกที่ นายเส้ง พ่อ นางตึง และศาลเจ้าต๋องหย๋องสู
ลักษณะที่ตั้งวัดเป็นที่ราบสูงเป็นควนเขา ในตอนหลังเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ปรับปรุงพื้นที่เป็นการใหญ่ โดยขอความร่วมมือจาก
คุณ จิ้นหวุน (เจริญ ตันติวิท) เจ้าของและผู้จัดการ บริษัท ตินติโกวิท และคุณ บันลือ ตันติวิท เจ้าของและผู้จัดการบริษัท บ่านหงวนตินไมนิ่งจำกัด
ทำการปรับพื้นที่โดยใช้รถแทรกเตอร์ของบริษัทฯ ใช้เวลาบริษัทละ ๑๗ วัน รวม ๓๔ วัน จึงได้พื้นที่ดังที่ปรากฏให้เห็นเป็นชั้นๆ ได้สามชั้น
ชั้นล่างปลูกมะพร้าวเป็นหลัก มีพืชผลบ้างเล็กน้อย มีการสร้างศาลาบำเพ็บกุศลและโรงครัว เป็นศาลาบาตรและที่พักคนเดินทาง
กับเป็นที่อยู่ของคนวัด พื้นที่ชั้นกลางเป็นสังฆาวาสที่อยู่ของพระสงฆ์ มีศาลาการเปรียญ กุฏิที่พักสงฆ์ เมรุเผาศพ อนุสาวรีย์หลวงพ่อเจ้าวัด
สถานที่พักผ่อนพื้นชั้นบนสุดใช้เป็นเขตพุทธาวาส มีโรงอุโบสถกว้าง ๑๐.๕๐ เมตร ยาว ๒๖ เมตร ริ่มสร้างเมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม พศ.๒๕๒๔
แล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ สิ้นเงินในการก่อสร้าง ๖,๒๓๒,๙๐๙ บาท จึงสำเร็จบริบูรณ์ วัดได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่
๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๙ แล้วทำพิธีสวดวิสุงคามสีมาสำเร็จ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๒๙ และใช้ทำการสังฆกรรมเป็นต้นมา
จนถึงได้ผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตร เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ วัดจึงมีความเป็นพัทธสีมาโดยสมบูรณ์แบบตั้งแต่นั้นมา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น